รีวิวการเดินทางไปชิลล์ รับลม ห่มฟ้า ท่ามกลางน้ำทะเลใสๆ ที่เกาะกูด TO THE SEA THE RESORT KOH KOOD จ.ตราด

ทะเล มันไม่ได้จำเป็นแค่เป็นที่หนีร้อน หนีรัก แต่ถ้าคุณอยากจะไปพักล่ะก็ ทะเลก็เป็นอีกหนึ่งที่พักใจ และพักกายได้ดีเลยทีเดียว … ไว้ไปนอนฟังเสียงคลื่น ออกไปพายเรือ ไปนอนชิลล์ >>> ต้องลองดู แล้วคุณจะรู้ว่ามันโครตดีต่อใจเลย วันนี้เราขอแนะนำที่พักติดทะเล Activities จัดเต็ม!!! (แบบฟรีๆด้วย) ไปด้วยกันนะ Let’s go >>> To the Sea Koh Kood รีสอร์ทเปิดใหม่ ที่เกาะกูด จ.ตราด การเดินทาง และเวลาการเดินเรือมีอธิบายแบบละเอียดตรงด้านล่างรีวิวค่ะ #ไม่มีรถส่วนตัวก็ไปได้นะ จากกรุงเทพฯ วิ่งผ่างผ่านชลบุรี ระยอง จันทบุรี เข้าสู่ตราด มุ่งหน้าไปที่ ท่าเรือแหลมศอก (ระยะทางประมาณ 350 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชม.ค่ะ) ขับไปจนสุดท่าเลย เค้ามีบริการรับฝากรถอยู่วันละ 50 บาท จุดซื้อตั๋วสุดท้ายเนี่ยแหละ ที่เห็นด้านซ้ายมือจะเป็นของเกาะกูด Express เราใช้บริการเรือของเกาะกูด Express ราคาตั๋ว 350/คน มีรอบเวลา 10.00 และ 13.00 น. 2รอบเท่านั้น (ไป-กลับ =700) ราคานี้เค้ารวมค่ารับส่งที่ท่าเรือ – รีสอร์ทแล้วนะ (พอไปถึง บอกชื่อรีสอร์ทที่คุณจะเข้าพัก เค้าจะบอกเบอร์รถมา ว่าต้องขึ้นคันไหน) ซื้อตั๋วเสร็จก็รอรถมารับ เค้าจะมีรถคันใหญ่บริการไปส่งที่ท่าเรือ นั่งเบียดๆกันหน่อยนะ ไม่เกิน 5 นาที รับรองถึงท่าเรือ : ) เรือเค้ามี 2 ชั้น ใครอยากชิลล์ อยากถ่ายรูปนั่งด้านนอกเลย แต่ถ้าใครร้อนๆ อยากนั่งพักสบายๆเชิญที่ห้องแอร์ได้เลยจ้า ถ้าห้องแอร์ก็แบบรูปด้านล่างนะ นั่ง แปปๆ รับไอแดดเบาๆ ตูดยังไม่ทันร้อนก็ถึงละ (ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิดๆ) พอถึงท่าเรือปุ๊ปให้เดินไปตามทางออกเลย บอกเค้าว่าจะไป ทู เดอะ ซี เกาะกูด เดี๋ยวเค้าจะบอกเบอร์รถให้ค่ะ ขึ้นรถตามเบอร์ที่เค้าบอกมา ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีค่ะ เดี๋ยวก็จะถึงที่พัก > ระหว่างทางใกล้ๆ ที่พัก อาจมีหลุม มีบ่อ ไม่ต้องตกใจนะ เค้ากำลังทำทางอยู่ (พอถึงรีสอร์ทนี่สวรรค์แน่แนอน : ) ถึงแล้ว To The Sea เกาะกูด ^_^ มาถึง Check in เสร็จ ก็เดินออกมาถ่ายรูปเลย นี่เป็นส่วนที่ติดกับ Lobby เป็นส่วนที่เราไว้นั่งชิลล์ กินข้าวเช้า และดินเนอร์กันตรงนี้ล่ะ เห็นวิวละยอมใจ … บอกตรงๆ <3 น้ำทะเลที่ส๊วยยย สวย น้ำใสๆ ลมเย็น ได้เบียร์สักกระป๋อง หรือคอกเทลสักแก้ว วันนี้มันคงฟินส์เนอะ … ว่าป่ะ? ถ้าจะกินก็สั่งได้นะ เค้ามีบาร์ เผื่อใครอยากย้อมใจสักแก้ว สำหรับห้องพักที่นี่ จะแยกออกเป็นบ้านของใครของมันเลย แบบว่า private อ่ะ (ส่วนใครถามว่าเก็บเสียงมั้ย อันนี้เราไม่รู้ 555+ แต่คิดว่าก็น่าจะระดับนึงนะ ) ขออวดวิวหน้าห้องสักนิด : ) คืนนี้เรานอนที่ห้อง Beach Front Suite มาสวีทสักที ขอแบบวิวดีๆ เอาไว้สร้างบรรยากาศก่อน เรามาดูกันกว้างๆนะ ว่าวิวมันจะดีต่อหัวใจขนาดไหน ข้างในก็จะประมาณนี้ (จะแตกต่างจากห้อง Beach Front Deluxe ตรงที่ใหญ่กว่าและมีโซฟา) ประตูห้องน้ำจะอยู่ตรงปลายเตียง วิวจากเตียงก็มองเห็นทะเล๊ ทะเล … เบื่อเตียงก็ไปนั่งข้างนอกได้ เค้ามีเก้าอี้กะเปลให้นอนหน้าห้อง (ถ่ายมาแต่ตอนนั่งเก้าอี้ ส่วนเปล ลืมถ่ายคร่าาา นอนกินลมเพลิน แม่งลืมเลย 555+) ส่วนของห้องน้ำจะแยกเป็น 2 ส่วน เป็นส่วนห้องน้ำ (มีที่แต่งตัว) และส่วนห้องอาบน้ำ จะเป็น Open Air อาบด้านนอก เป็น Rain Shower นี่แหละที่อาบน้ำเรา… : ) ดีกๆนี่ได้บรรยากาศนะ อาบไปแหงนมองฟ้าไป อยู่ห้อง นอนดูวิว จากบนเตียง เปิดเพลงฟังเบาๆ มันก็เพลินดีนะ … ดูเวลาอีกทีก็เริ่มเย็นละ แดดร่ม ลมตก ถึงเวลาออกไป พายเรือคายัคเล่น วิวดีส่งตรงถึงหน้าหน้อง แบบไม่ต้องไปดูที่ไหนไกล : ) มาดูกัน ว่าเราทำอะไรกันได้บ้างในรีสอร์ท เราขอแยกเป็นข้อๆ เขียนรวมกันทีเดียวนะ คือเราไป 3วัน2คืน ถ้าคุณอยากไป … อยากทำอะไรก่อนก็เลือกเอาที่อยากทำได้เลย 1.พายเรือคายัคเล่น (อันนี้ฟรีนะ สามารถบอกพนักงานได้ที่ Lobby ค่ะ) เราชอบมากอันนี้ พายง่ายๆ สบายๆ ชิลล์ๆ (ใครพายไม่เป็นก็ลองได้นะ มันง่ายมากๆ ไม่ซับซ้อนอะไร ไม่ต้องกลัวตกด้วย ไม่ค่อยมีคลื่น) พายเล่นชิลล์ๆ ถ่ายรูปเล่นกันเพลินๆ มันดีมากอ่ะบอกเลย ดูมีความเป็น private สูงมาก เหมือนทะเลนี้มีแค่ 2 เรา น้ำทะเลก็ใส๊ใส … มันดีต่อใจจริงๆ (เกาะด้านบนสามารถปีนขึ้นไปได้นะ แต่จอดเรือดีๆหน่อย ระวังเรือลอยหายไป จะกลับรีสอร์ทไม่ได้นะ … ว่ายกลับก็ไกลอยู่ 555+) ด้านหลังที่เห็นลิบๆ ก็คือรีสอร์ทที่เราอยู่นั่นแหละ 2. หรือจะไปเล่น paddle board อันนี้ก็ฟรีอีกเช่นกัน ติดต่อได้ที่ Lobby แต่ว่ามันจะพายยากกว่าคายัคอยู่เหมือนกันนะ มันต้องยืนพาย เวลาคลื่นมานี่เซเลย ต้องทรงตัวดีๆ ระวังตกแล้วจะขึ้นลำบากนะจ๊ะ ขอเป็นคนนั่งให้ เพราะกลัวยืน 2 คน เดี๋ยวไม่มีตัวถ่วง จะจมทั้งคู่ (ดูเหมือนเสียสละป่ะ? ป่าวหรอก เรากลัวตก 555+) นี่ไง…พูดไม่ทันขาดคำ ถ้าไม่นั่งถ่วงให้นะ รับรองจมคู่ และสุดท้าย … เราจึงต้องนั่งเหมือนกัน… (ก็พายได้นะ แต่สำหรับเรา เราชอบคายัคมากกว่า มันนั่งชิลล์กว่าไง) ถ้าเริ่มค่ำก็พายกลับนะ ทะเลมันมืด เดี๋ยวอันตราย : ) 3. นั่งชมวิวชิลล์ๆ ตรงเตียงที่ปลายหาด ตรงมุมนี้จะเห็นพระอาทิตย์ตกพอดีเลย แนะนำว่าให้พกเบียร์ไปสักกระป๋อง เปิดคู่กับเพลงในมือถือ (บรรยากาศจะดีขึ้นอีก 80%) 4. ไปนั่งกินลม ชมวิวบนสะพานไม้ 5. ไปว่ายน้ำในสระ แบบชมวิวทะเลที่โครตพีค! หากคุณต้องการพร๊อบในการเล่นน้ำ ไม่ว่าจะเป็นห่วงยางสวยๆไว้ถ่ายรูป ยูนิคอนสักตัว แพสักอัน หรือแว่นกันน้ำ คุณสามารถติดต่อขอที่ Lobby ได้อีกเช่นเดียวกัน (ฟรีอีกนั่นแหละ Lobby สวรรค์ ขอได้ดั่งใจ 555+) สองรูปนี้ วิวจากห้องพักเราเอง : ) 7. *** Highlight นั่งรถไปชมน้ำตกสวรรค์ (น้ำตกคลองเจ้า) ฟรี ที่รีสอร์ทมีบริการรถรับส่งไปเที่ยวน้ำตกฟรีจ้า มีรอบเช้าตอน 10 โมง และรอบบ่าย น่าจะสักบ่าย 2 (ยังไงลองสอบถามดูใหม่ได้เพื่อความชัวร์) น้ำตกนี้สวยมากนะ น้ำใสมากด้วย สามารถว่ายน้ำเล่นได้สบายๆเลย *อย่าลืมเตรียมชุดไปเปลี่ยนล่ะ เดี๋ยวจะเสียใจแบบเราที่ไม่ได้เล่น จากที่รถจอดต้องเดินเข้าไปนิดหน่อยค่ะ ไม่ร้อน ร่มรื่น เดินสบายๆ ตรงนี้ที่เป็นทางเดินหินและน้ำ ระวังด้วย ลื่นมาก (เราได้แผลมาละ … ตอนแรกเหมือนจะไม่ล้มนะ มันเหมือนจะทรงตัวได้ แต่เผลอแค่แว๊บเดียว รู้ตัวอีกทีก็เลือดซิบๆละที่เข่าปวดไป 3 วัน ) พวกนี้เลยที่ต้องระวัง … ไปกันประมาณ 10 คน ลื่นไป 4 คิดดู!!! (และเราก็คือ 1 ในผู้โชคดีคนนั้น – -* ) ระหว่างทาง… ก็สวยดีนะ ข้ามจากตรงที่ลื่นๆนี่ไปนิดนึง เราก็จะถึงน้ำตกละ นี่ไง บอกว่าใสๆ เล่นน้ำได้ : ) หรือถ้าไม่ได้เอาชุดมา … ก็นั่งชมไปบนโขดหินแบบนี้ ; p 8. นั่งชมวิวชิลล์ๆ กินอาหารอร่อยๆ สำหรับอาหารเช้าและอาหารเย็นที่นี่ เราจะกินกันตรงนี้ค่ะ อาหารเช้าที่นี่สามารถสั่งได้ทุกอย่างในรูปนี้ ยกเว้นเฟร้นฟายด์ (อันนี้ต้องสั่งแยกจ้า) กินไม่อิ่มก็สั่งเพิ่มได้จนกว่าจะอิ่ม อยากกิน 2 จานก็ได้นะ ราคาห้องรวมอาหารเช้าแล้ว : ) หรือถ้าตื่นสาย แดดร้อนอยากนั่งด้านใน … วิวก็ยังคงสวยอยู่เหมือนเดิม หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ เราก็ต้องรีบขึ้นรถละ เตรียมตัวกลับเพราะเรือที่ออกจากเกาะกูดจะมีรอบเดียวคือรอบ 10 โมงเช้า โดยจะมีรถมารับจากรีสอร์ทไปขึ้นเรือที่ท่าเรือที่เดิม ราคาตั๋ว 350 บาทเช่นเดียวกันค่ะ (บอกให้รีสอร์ทช่วยจองให้ก็ได้ค่ะ) และทริป 3 วัน 2 คืนของเรา ก็ได้จบลงเพียงเท่านี้ … เนี่ยแหละ เวลาแห่งความสุขมันมักจะผ่านไปไวเสมอ หรือจะซื้อเป็นแพคเกจ ที่รวมอาหารด้วยก็ได้น๊า ถ้าต้องการดูรูปหรือข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่ https://tothesea-kohkood.com/ หรือว่าจะ Inbox ที่ Facebook : https://www.facebook.com/Totheseakohkood/ สอบถามเพิ่มเติม โทร 086-351-8031 และ 092-384-1331 นะครัช : ) ปล.หากใครเจอหมาตัวนี้ ไม่ต้องกลัวนะ เค้าอาจหน้าโหด แต่จริงๆเค้าน่ารักและขี้เล่นมาก เล่นกับเค้าได้นะ (ชื่อคูเปอร์ เพิ่งจะ 6 เดือน แต่ตัวโครตโต) *** น้องหมาตัวเล็ก น้ำหนักไม่เกิน 5 กก. สามารถเข้าพักได้นะจ๊ะ Note : เพิ่มเติม การไปเกาะกูดควรไปอย่างน้อย 3 วัน 2 คืนค่ะ เป็นเพราะว่า รอบเรือที่ออกจากเกาะกูดมีเพียงรอบเดียวคือรอบ 10 โมงเช้า (เราใช้บริการเรือของ เกาะกูด Express) รถจะมารับคุณจากรีสอร์ทตอน 9 โมงเช้า ดังนั้น ถ้าคุณไปแค่ 1 คืน คุณอาจแทบไม่ได้เที่ยวเลย (ไปถึงบ่าย พอ 9 โมงเช้าต้อง Check out ละ ) ดังนั้นแนะนำว่าถ้าจะไป 2 วันดีกว่าค่ะ ไม่เหนื่อยไป ได้มีเวลาเที่ยวน้ำตก พายเรือด้วย : ) การเดินทาง / ตารางการเดินเรือ เริ่มจาก 1. เกาะกูด Express ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่และจองตั๋วได้ที่ Link–> เกาะกูด Express 2.) เกาะกูดบุญศิริคาตามารัน สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการขับรถมาเอง สามารถใช้บริการอันนี้ได้เลยค่ะ ราคา 850 ขึ้นที่ถนนข้าวสาร ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่และจองตั๋วได้ที่ Link–> เกาะกูดบุญศิริคาตามารัน หากต้องการไปโดยรถโดยสารประจำทาง อ่านรายละเอียดได้ที่ http://travel.thai-tour.com/trad/kokut ขอให้มีความสุขกับการเที่ยวทะเล๊ ทะเล นะจ๊ะ เที่ยวกันให้สนุกน๊า ^_^ ติดตามรีวิวอื่นๆได้ที่ https://th.readme.me/id/ReviewPapai ฝากเพจด้วยนะคะให้กำลังใจคนเขียนนิดนึง ; p https://www.facebook.com/ReviewPapai/ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า : )